Vergangenheit Zeitform

หรือรูปอดีต ยังสามารถแบ่งออกเป็นประเภทย่อยได้อีก 3 ประเภทดังนี้
1. Plusquamperfekt
2. Präteritum
3. Perfekt

Plusquamperfekt

จะเรียกอีกอย่างได้ว่าเป็นรูป Vorvergangenheit (เหตุการณ์ก่อนเหตุการณ์ในอดีต) หรือ vollendete Vergangenheit
ใช้บอกเล่าเพื่อบ่งชี้ลำดับเหตุการณ์ในอดีต เมื่อพูดถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นพร้อมกันมากกว่า 1 เหตุการณ์ ว่าเหตุการณ์ใดนั้นเกิดขึ้นก่อน เช่น เธอเรียนอย่างหนัก ก่อนที่เธอจะสอบผ่านได้ Sie hatte sehr viel gelernt, bevor sie die Prüfung bestanden hat.
ประโยค Plusquamperfekt ได้บ่งชี้ว่าเหตุการณ์แรกได้เกิดขึ้นก่อน คือการที่เธอเรียนอย่างหนัก ก่อนที่เธอจะสอบผ่าน

Plusquamperfekt

ลองสลับตำแหน่งของประโยคดูบ้าง
Bevor sie die Prüfung bestanden hat, hatte sie sehr viel gelernt.
ถึงแม้ว่าจะมีการสลับตำแหน่งให้ Plusquamperfekt ไปอยู่ประโยคข้างหลัง ก็ไม่ได้ทำให้ความหมายเปลี่ยน หรือลำดับของเหตุการณ์เปลี่ยนไป เรายังสามารถบอกได้ว่า ประโยค Plusquamperfekt นั้นเป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นก่อน

Präteritum

จะใช้บอกเล่าเหตุการณ์ที่ได้เกิดขึ้นและสิ้นสุดไปแล้วในอดีต ซึ่งแตกต่างจาก Plusquamperfekt คือ จะไม่ได้มีการเน้นย้ำลำดับเหตุการณ์ หรือบ่งชี้ว่าสิ่งใดเกิดขึ้นก่อน หรือหลัง เป็นการกล่าวถึงเหตุการณ์ที่ได้เกิดขึ้นและสิ้นสุดไปแล้วโดยทั่วๆไป Präteritum เรียกได้อีกอย่างว่าเป็นภาษาเขียนเมื่อเราต้องการพูดถึงเรื่องในอดีต มักจะใช้ในการเขียนหนังสือพิมพ์ บทความ หรือหนังสือ มักจะไม่ค่อยใช้ในการพูดโดยทั่วไป

ตัวอย่าง
Sie guckte ihn an und lächelte.
เธอมองเขา และยิ้ม
Letzte Woche fuhr ich nach Spanien.
เมื่อสัปดาห์ที่แล้วฉันเดินทางไปประเทศสเปนมา

Perfekt

จะใช้บอกเล่าเหตุการณ์ที่ได้เกิดขึ้นและสิ้นสุดไปแล้วในอดีต ซึ่งแตกต่างจาก Präteritum คือ Perfekt เป็นภาษาพูดที่ใช้โดยทั่วไปในชีวิตประจำวัน ตัวอย่าง
Gestern bin ich in die Schule gegangen.
เมื่อวานฉันไปโรงเรียน
Ich habe heute nicht viel gelernt.
วันนี้ฉันไม่ได้เรียนเยอะ
Sie hat Abendessen gekocht.
เธอทำอาหารเย็นแล้ว

Präsens

ใช้บอกเล่าเหตุการณ์ที่กำลังเกิดขึ้นในปัจจุบัน ตัวอย่าง
Ich lese ein Buch.
ฉันกำลังอ่านหนังสืออยู่
Er kocht.
เขากำลังทำอาหาร
Ich denke an dich.
ฉันกำลังนึกถึงคุณ

Präsens

ภาษาเยอรมันยังมีความพิเศษคือ นอกจาก Präsens จะใช้บอกเหตุการณ์ในปัจจุบันแล้ว ยังสามารถใช้บอกเล่าเหตุการณ์ที่กำลังเกิดขึ้นในอนาคตอันใกล้ โดยการนำ Adverb เข้ามาช่วยบ่งชี้เวลานั้น ตัวอย่าง
Morgen gehe ich einkaufen.
วันพรุ่งนี้ฉันจะไปซื้อของ
Wir fliegen nächste Woche nach Spanien.
เราจะบินไปสเปนอาทิตย์หน้า
Im Januar habe ich eine Prüfung.
ฉันจะมีสอบตอนเดือนมกรา

Präsens

เพราะเหตุนี้ Präsens จึงเป็นเทนส์ที่ค่อนข้างสะดวก และมีประโยชน์มาก เพราะไม่จำเป็นต้องทำการผันให้ยุ่งยาก แต่สามารถใช้พูดถึงได้ทั้งเหตุการณ์ในปัจจุบันและอนาคต

Futur I

จะใช้กล่าวถึงต้องการเน้นย้ำถึงเจตนารมณ์ของเรื่องที่กำลังจะเกิดขึ้นในอนาคต หรือสิ่งที่มีการวางแผนไว้อย่างชัดเจน หรือเหตุการณ์ที่คาดหวังว่าจะเกิดขึ้นในอนาคต เช่น
Ich werde im September studieren anfangen.
ฉันจะเริ่มเรียนในเดือนกันยายน (อาจจะมีการสมัครเรียนไว้แล้ว และเหตุการณ์นี้จะต้องเกิดขึ้นในอนาคตอย่างแน่นอน)

Futur II

จะใช้ในการคาดเดาเหตุการณ์ในอนาคต(ซึ่งยังไม่ได้เกิดขึ้น) แต่มีความเป็นไปได้สูงว่าจะเกิดขี้น ว่าเหตุการณ์นั้นจะเกิดขึ้นและสิ้นสุดลงในอนาคตอันใกล้นี้ ตัวอย่าง
Ich habe Paul einen Brief geschickt. Er wird innerhalb einer Woche den Brief bekommen haben.
ฉันส่งจดหมายไปหาพอล เขาน่าจะได้รับภายในอาทิตย์หนึ่ง (คาดเดาว่าพอลน่าจะต้องได้รับจดหมายในอนาคตอย่างแน่นอน)

ภาพรวม deutsche Zeitformen

**Pqpf: Plusquamperfekt