sein และ haben ความแตกต่าง

แตะที่ไอคอนเพื่อดูเมนูเพิ่มเติม

sein vs haben แตกต่างกันอย่างไร

sein vs haben als Hilfsverben

sein มีความหมายว่า เป็น อยู่ คือ
ส่วน haben มีความหมายว่า มี
sein และ haben นั้น เป็นทั้งกริยาแท้ที่มีความหมายในตัวเอง และยังเป็นกริยาช่วย ที่ทำหน้าที่ด้านไวยากรณ์ในโครงสร้างของประโยค
ในกรณีปกติแล้ว การใช้ sein และ haben อาจไม่ใช่เรื่องที่น่าสับสนสักเท่าไหร่ เพราะทั้ง 2 คำนี้จะมีความหมายตรงตัว
เช่น Ich bin Lehrerin. ฉันเป็นครู
หรือ Ich habe Geld. ฉันมีเงิน

แต่เมื่อไหร่ก็ตามที่ sein และ haben ทำหน้าที่เป็นกริยาช่วย หรือ Hilfsverben ในไวยากรณ์ Zeitform Perfekt นั้น เราอาจจะเกิดสับสนขึ้นมา ว่ากริยาหลักตัวไหนควรใช้กับ sein หรือ haben

กริยาช่วยคืออะไร?

กริยาช่วย เป็นคำกริยาที่เราต้องใช้ในไวยากรณ์ หรือการสร้างรูปประโยคบางประเภท เช่น การสร้างประโยค Perfekt ที่รูปประโยคจำเป็นต้องมีการนำกริยาช่วยมาใช้ ซึ่งกริยาช่วยเหล่านี้ จะไม่ได้มีความหมายในตัวเอง

Hilfsverben haben

ใน Zeitform Perfekt เราจะใช้กริยาช่วย haben เมื่อคำกริยาในรูป Partizip II นั้นต้องมีกรรมรอง (Akkusativ) มารองรับ
เช่น kaufen + Akkusativ ต้องมีกรรมรองมารองรับ
Ich habe die Blumen gekauft.

Hilfsverben haben

schreiben + Akkusativ ต้องมีกรรมรองมารองรับ
Ich habe einen Brief geschrieben.
ฉันได้เขียนจดหมาย(แล้ว)

Hilfsverben haben

กริยาที่ในประโยคไม่ได้มีกรรมมารองรับ แต่ไม่ได้แสดงการเคลื่อนที่ จากจุดหนึ่งไปยังอีกจุดหนึ่ง หรือแสดงการเปลี่ยนแปลงสถานะ
Er hat studiert.
เขาเรียน (เสร็จแล้ว, จบแล้ว)

Hilfsverben haben

กริยาที่ในประโยคไม่ได้มีกรรมมารองรับ แต่ไม่ได้แสดงการเคลื่อนที่ จากจุดหนึ่งไปยังอีกจุดหนึ่ง หรือแสดงการเปลี่ยนแปลงสถานะ
Wir haben aufgeräumt.
พวกเราทำความสะอาดแล้ว

Hilfsverben haben

ในกริยาสะท้อนกลับ Reflexivpronomen จะใช้กริยาช่วย haben
Wir haben uns am Hauptbahnhof getroffen.
พวกเราเจอกันที่สถานีรถไฟ(แล้ว)

Hilfsverben haben

ในกริยาสะท้อนกลับ Reflexivpronomen จะใช้กริยาช่วย haben
Ich habe mich für klassische Musik interessiert.
ฉันสนใจดนตรีคลาสสิก

Hilfsverben sein

จะใช้กับคำกริยาที่มีการเคลื่อนไหวจากจุดหนึ่ง ไปยังอีกจุดหนึ่ง หรือมีการเปลี่ยนแปลงของสถานะ
เช่น fahren ขับรถ laufen วิ่ง, เดิน, gehen ไป, fallen ล่วง, หล่น, fliegen บิน, kommen มา, reisen เดินทาง, ท่องเที่ยว, stolpern สะดุด
จะเห็นได้อย่างชัดเจนว่ากริยาทั้งหมดเป็นการเคลี่ยนที่จากจุดหนึ่ง ไปยังอีกจุดที่ต่างออกไป

Hilfsverben sein

fahren ขับรถ เดินทาง
Wir sind nach Berlin gefahren. เราเดินทางกลับเบอร์ลินแล้ว (เคลื่อนที่จากจุด A ไปยังจุด B)

Hilfsverben sein

gehen ไป
Tina ist einkaufen gegangen. ทีน่าไปซื้อของมาแล้ว

Hilfsverben sein

kommen มา
Wir sind nach Hause gekommen. เรากลับมาถึงบ้านแล้ว

Hilfsverben sein

กริยาที่มีการเปลี่ยนแปลงของสถานะ
เช่น aufstehen ลุกขึ้น, aufwachen ตื่นนอน, sterben ตาย, einschlafen นอนหลับ

Hilfsverben sein

aufstehen ลุกขึ้น, ตื่นนอน(แล้วลุกจากเตียง) อาจเปลี่ยนแปลงสถานะจากนั่งอยู่ แล้วลุกขึ้นยืน หรือนอนหลับ แล้วตื่นนอน
Ich bin heute Morgen um 8 Uhr aufgestanden.
เมื่อเช้านี้ฉันตื่นนอนตอน 8 โมง

Hilfsverben sein

sterben ตาย
Meine Katze ist gestorben. แมวของฉันตาย (เปลี่ยนจากมีชีวิตอยู่เป็นตาย)

Hilfsverben sein

ใช้กับกริยาต่อไปนี้ในรูปอดีต bleiben, sein, werden, gelingen, misslingen, geschehen, passieren
Meine Katze ist dicker geworden.
แมวของฉันอ้วนขึ้น
Was ist passiert?
เกิดอะไรขึ้น?
Wir sind bei unseren Eltern geblieben.
เราไปอยู่กับพ่อแม่มา

Hilfsverben haben Hilfsverben sein