ก่อนที่จะเริ่มเรียนวิธีอ่านตัวอักษรภาษาเยอรมัน
ลองมาอ่านสิ่งที่ควรรู้เล็กๆ กันก่อนดีกว่า
ประเทศเยอรมนีนั้นจะเรียกตนเองว่า
Deutschland
และภาษาเยอรมัน คือ
Deutsch
ไม่ใช่ Germany หรือ German ตามภาษาอังกฤษ ในบางครั้งที่เราพยายามค้นหาชื่อลิสต์ประเทศในการกรอกแบบฟอร์ม เราอาจจะไม่เจอคำว่า Germany แต่จะเจอคำว่า Deutschland แทน
Hochdeutsch คืออะไร ทำไมแปลออกมาได้ว่า "เยอรมันสูง" ?? 🥴
ความจริงแล้วเมื่อเริ่มเรียนภาษาเยอรมันครั้งแรก อาจจะไม่เข้าใจความหมายของคำว่า Hochdeutsch ว่าคืออะไร และเมื่อเราพยายามหาคำแปลอย่างไรก็ไม่เข้าใจสักทีภาษาเยอรมันก็เหมือนกับภาษาอื่นๆทั่วโลก ที่จะมี ภาษาเยอรมันมาตรฐาน และภาษาถิ่น (Dialekt) และ Hochdeutsch คือภาษาเยอรมันมาตรฐานนั่นเอง เปรียบได้กับภาษาไทยกลาง หรือที่เมื่อพูดแล้ว คนอื่นๆจะสามารถเข้าใจได้ ไม่ใช่ภาษาเยอรมันท้องถิ่น ที่จะมีคำศัพท์ต่างๆที่แตกต่างออกไป เมื่อคนต่างถิ่นได้ยินแล้วจะไม่สามารถเข้าใจได้ ซึ่งในปัจจุบัน ประเทศเยอรมนีก็ยังมีการพูดภาษาถิ่นอย่างแพร่หลาย
แม้จะขึ้นชื่อว่าเป็น "ภาษาเยอรมัน" แต่ไม่ได้มีแค่ประเทศเยอรมนีเท่านั้นหรอกนะ ที่พูดภาษาเยอรมัน หรือใช้ภาษาเยอรมันเป็นภาษาทางการ นอกจากนี้ยังมีประเทศ ออสเตรีย เบลเยียม ลักเซมเบิร์ก ลิกเตนสไตน์ และสวิสเซอร์แลนด์อีกด้วย แต่อาจจะเป็นภาษาเยอรมันที่มีสำเนียงต่างกัน จึงหมายความว่า เราไม่จำเป็นต้องเรียนภาษาเยอรมัน เพื่อที่จะใช้แค่ในประเทศเยอรมนีเพียงเท่านั้น
ภาษาเยอรมันแบ่งประเภทของคำได้เป็น 10 ประเภท โดยหลักๆ ที่สำคัญ คือ
das Nomen
คำนาม คือ คำที่ใช้เรียก คน สัตว์ สิ่งของ เช่นdas Verb
คำกริยา ใช้เพื่อบ่งบอกว่า คน สัตว์ หรือสิ่งต่างๆ กำลังทำอะไรอยู่
เช่น
kommen มา
fahren ขับรถ
das Adjektiv
คำคุณศัพท์ เป็นคำที่ใช้ขยายคำนาม เพื่อบ่งบอก รูปร่าง ลักษณะ เป็นต้น
เช่น
ein kleiner Hund สุนัขตัวเล็ก
ein neues Auto รถคันใหม่
das Pronomen
คำสรรพนาม คือ คำที่ใช้เพื่อแทนคำนาม (คน สัตว์ และ สิ่งของ) เช่น
ich ฉัน
du เธอ
die Präposition
คำบุพบท คำที่ใช้บ่งชี้ หรือบอกเวลา ตำแหน่ง และทิศทาง เช่น
am Montag (ตอน, เมื่อ) วันจันทร์
im Büro (arbeiten) ทำงานที่ออฟฟิศ
คำนามของภาษาเยอรมันนั้นจะมีเพศ ซึ่งแต่ละเพศจะมีคำนำหน้าโดยเฉพาะ หรือที่เรียกว่า
Artikel
เหมือนกับคำว่า the ในภาษาอังกฤษ แต่ในภาษาอังกฤษจะไม่มีเพศ
เมื่อเริ่มเรียนภาษาเยอรมัน อาจจะสงสัยว่า ทำไมถึงมีคำที่เขียนขึ้นต้นด้วยอักษรตัวใหญ่โผล่ขึ้นมากลางประโยคเต็มไปหมด
นั่นเป็นเพราะว่า คำนามในภาษาเยอรมันจะต้องเขียนขึ้นต้นตัวแรกด้วยตัวพิมพ์ใหญ่เสมอ
เช่นเดียวกันกับหลักการเขียนขึ้นต้นประโยค ที่ต้องใช้อักษรตัวแรกเป็นตัวใหญ่
ตัวพิมพ์ใหญ่จะต้องใช้ในการเขียนขึ้นต้นคำนามเท่านั้น ส่วนคำนำหน้าคำนาม (der die das) จะยังเขียนเป็นตัวพิมพ์เล็ก ยกเว้นแต่ในกรณีที่คำนามคำนั้นขึ้นต้นประโยค ตัวอย่าง หน้าถัดไป
Ich trinke einen Kaffee.
ฉันดื่มกาแฟ
Kaffee เป็นคำนามที่อยู่ในประโยคนี้
Ich gehe zur Schule.
ฉันไปโรงเรียน
Schule เป็นคำนามที่อยู่ในประโยคนี้
Die Katze schläft.
แมว(กำลัง)นอน
Katze ขึ้นต้นประโยค คำนำหน้าคำนาม die
จึงเขียนด้วยตัวใหญ่
คำหลายๆ คำ จะมีการเขียนเหมือนกับภาษาอังกฤษ แต่จะมีการออกเสียงที่ต่างกันโดยสิ้นเชิง
และในภาษาเยอรมันนั้น มักจะอ่านออกเสียงตรงตัวตามที่เขียนเสมอ นอกจากนี้ ภาษาเยอรมันยังอ่านออกเสียงเป็นพยางค์
เมื่อพบกับคำศัพท์ที่ยาว และไม่สามารถอ่านได้ ให้สังเกตว่าตรงไหนคือตัวอักษรนำ สระ และตัวสะกด แล้วลองแยกคำออกมาเป็นพยางค์ดู
ตัวอย่าง
die Information
เมื่อแยกพยางค์ออกมา จะได้
In - for - ma - ti - on ข้อมูล
die Kommunikation
เมื่อแยกพยางค์ออกมา จะได้
Kom - mu - ni - ka - ti - on การสื่อสาร
das Krankenhaus
เมื่อแยกพยางค์ออกมา จะได้
Kran - ken - haus โรงพยาบาล
จะเห็นได้ว่า เทคนิคนี้จะช่วยให้เราสามารถอ่านภาษาเยอรมันได้อย่างง่ายดายขึ้น
ขอให้สนุกกับการเรียนภาษาเยอรมัน
Viel Spaß und bis bald! 🤞